บุรีรัมย์ มาราธอน สมเกรด บรอนซ์ เลเบิล ไร้ PM2.5

สตาร์ทวันแรก บุรีรัมย์ มาราธอน สมเกรด บรอนซ์ เลเบิลไร้ PM2.5

สตาร์ทวันแรก! บุรีรัมย์ มาราธอน สมเกรด “บรอนซ์ เลเบิล” ไร้ PM2.5

ย่า และเอธิโอเปีย ที่ศาลหลักเมือง จ.บุรีรัมย์ ร่วมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, นายยูกิโอะ เซกิ ผู้ควบคุมการแข่งขันด้านเทคนิคจากเวิล์ด แอทเลติก (World Athletics), นายแพทย์ ฟูมิฮิโระ ยามาซาว่า Japan Association of Athletics Federation และ นายสุชาติ แจสุรภาพ ผู้แทนสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย โดยมีวงโปงลางและเยาวชนลูกหลานชาวบุรีรัมย์ ร่วมให้การต้อนรับคณะนักวิ่งระดับโลก บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานประทับใจ

นอกจากนี้ เหล่าบรรดานักวิ่งได้เดินทางมารับ “บิบ” (Bib) หรือเลขประจำตัวนักวิ่ง ที่ ลานด้านหน้าสนามฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดกันอย่างคึกคัก โดยเริ่มรับบิบมาตั้งแต่ในวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขันกำหนดรับบิบ เป็นเวลา 2 วัน นอกจากนี้ยังมีการ จัดงาน Expo Burirum Marathon 2020 จำหน่ายอุปกรณ์การวิ่งจากแบรนด์ ดังกว่า 80 บูธ ให้นักวิ่งได้จับจ่ายซื้อสินค้า โดยแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนอุปกรณ์กีฬา โซนโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และโซนของฝากของที่ระลึก การแข่งขันเริ่มสตาร์ทจากการวิ่งประเภทฟันรัน ระยะ 4.554 กิโลเมตร ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมวิ่ง 6,198 คน โดยใช้เส้นทางวิ่งภายใน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่เป็นสนามแข่งรถระดับโลก ที่ปีนี้เป็นปีแรกที่วิ่งช่วงเย็น ก่อนประเภทอื่น

 

นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีความพร้อมที่จะต้อนรับนักวิ่ง และพร้อมแสดงศักยภาพของจังหวัด ด้วยการเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว เมืองแห่งการกีฬา นักวิ่งทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีเยี่ยม ทั้งการเดินทาง ที่พัก และอาหาร รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ซึ่งคนบุรีรัมย์ ก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ให้ประทับใจที่สุดด้วยมาตรฐานของความเป็นบุรีรัมย์ การบริการจุดให้น้ำมีกำลังคนกว่า 1 พันคน จุดเชียร์นักกีฬา โดยรอบเส้นทางวิ่ง 37 จุด มีกองเชียร์กว่า 2 หมื่นคน ซึ่ง กองเชียร์ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจของการวิ่งมาราธอนที่บุรีรัมย์ นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมอุโมงค์น้ำ เพื่อลดความร้อนในการวิ่ง , การรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ปรับปรุงเส้นทาง ไฟฟ้าความสว่าง การจัดการสัตว์เลี้ยงตามเส้นทาง, ความสะอาด ,จุดพยาบาล ฯลฯ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ ASK ME buriram ไว้ให้บริการสอบถามข้อมูลต่างๆคอยบริการอีกด้วย

ทั้งนี้ ทางจังหวัดบุรีรัมย์ยังได้จัดทำโครงการรณรงค์ งดเผา เขตห้ามเผาเด็ดขาด และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) รวมทั้งมาตรการการป้องกันไวรัสโคโรนา โดยสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ มีจุดตรวจไข้ที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ พร้อมหน่วยแพทย์ให้คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้มีอาการ โดยภายในงาน Buriram Marathon ได้มีการตรวจวัดไข้ ในจุดทางเข้างาน 2 จุด พร้อมด้วยการให้บริการตรวจและแนะนำจากหน่วยแพทย์ และแจกหน้ากากอนามัยให้กับผู้ที่มีความจำเป็นและบริการเจลล้างมือในบริเวณงาน

 

ด้าน บุญถึง ศรีสังข์ ยอดนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย หนึ่งเดียวที่ผ่านสังเวียนโอลิมปิก 2016 ชี้บุรีรัมย์มาราธอน 2020 ช่วยยกระดับวงการมาราธอนไทยอย่างมาก หลังได้การรับรองให้เป็นการแข่งขันระดับ บรอนซ์ เลเบิล จากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ หรือ World Athletics Road Race (ชื่อเดิม IAAF) โดยแชมป์คนไทยในประเภทมาราธอน 3 ปีซ้อน เผยถึงบุรีรัมย์ มาราธอน 2020 เผยว่า “ต้องบอกว่าการแข่งขันวิ่งมาราธอน ที่บุรีรัมย์เป็นสนามมาราธอนที่ดีที่สุดในไทย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการแข่งขัน ที่สวยงามและได้มาตรฐาน มีมวลชน พวกชาวบ้านมีส่วนร่วม ในการมาเชียร์นักวิ่งตลอดเส้นทาง ทำให้บรรรยากาศการแข่งขัน และตลอดเส้นทาง คนเข้าร่วมการวิ่งรายการนี้รู้สึกดีทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นมาราธอน, ฮาล์ฟมาราธอน, มินิมาราธอน โดยเฉพาะ ประเภทมาราธอนและ ฮาล์ฟมาราธอน ที่คนวิ่งที่ใช้เวลานาน เมื่อมีชาวบ้านมาร่วมเชียร์ ทำให้นักวิ่งมีกำลังใจ”

“แถมยังเป็นเรื่องน่ายินดีที่ การแข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอน ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ หรือ World Athletics Road Race (ชื่อเดิม IAAF) ให้เป็นบรอนซ์ เลเบิล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการแข่งขันระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ ปีนี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่มีรายการวิ่งระยะฟูลมาราธอน (42.195 กม.) ระดับบรอนซ์ เลเบิล แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการแข่งขันที่สูงตามมาตรฐานที่ไอเอเอเอฟวางไว้ และสามารถดึงดูดใจนักวิ่งจากทั่วโลกให้มาร่วมวิ่งกันที่นี่กันอย่างมากมาย”

 

“ที่ผ่านมา การแข่งขันมาราธอนในบ้านเราถ้าเทียบกับมาตรฐานระดับโลกแล้ว โอกาสน้อยมากที่จะอยู่ในระดับ บรอนซ์ เลเบิล ถ้าเราสามารถยกระดับได้ ในอนาคตอาจจะกลายเป็นสนามคัดโอลิมปิก หรือคัดนักวิ่งมาราธอนระดับโลก ทำให้มีนักวิ่งระดับโลกสามารถมาวิ่งกันเพิ่มขึ้น ดูจากการจัดการแข่งขันในปีที่ผ่านมามั่นใจว่า การแข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอน สามารถทำได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ จะไปถึงในระดับ ซิลเวอร์ เลเบิล ในอนาคต เนื่องด้วยศักยภาพการจัดการแข่งขันรายการนี้ ถ้าสามารถจัดการแข่งขันระดับโลกได้ และพัฒนาศักยภาพการตัดการแข่งขันให้ดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไป จะส่งผลดีกับชาวบุรีรัมย์ และประเทศไทยอย่างแน่นอน”

แหล่งข่าว : https://www.smmsport.com/reader/news/291406?fbclid=IwAR0ZVHZDA37PLnsGpIkb8xXMJgVUrXBvgD7hOS4aLbpU-dPQASgU9xUO14Y


9 February 2020